วันพฤหัสบดีที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2554

รักนวลสงวนตัว

วิธีถนอมรักให้ยืนยาว

“กว่าที่คน 2 คน จะรักกันได้ก็ยากพออยู่แล้ว แต่การถนอมความรักที่มีต่อกันให้ยั่งยืนยาวนานนั้น ยากยิ่งกว่า”
ใครก็ไม่รู้พูดถึงการครองรักนี้ไว้ตรงใจดีเหลือเกิน เคยลองถามคนอื่นๆ ดูถึงเรื่องนี้ ก็มีเสียงยืนยันสนับสนุนท่วมท้นจากผู้มีประสบการณ์ว่า จริงของเขา งานนี้ชัวร์ไม่มีมั่วนิ่ม…ได้ยินอย่างนี้แล้วบรรดาคนโสดทั้งหลายก็อย่าเพิ่งขยาด กลัวความรักกันไปเสียหมด ใจเย็นๆ ก่อน เพราะถึงการรักษาความรักไม่ให้จืดจางนั้นจะยาก ก็ใช่ว่าจะไม่มีหนทางเสียเลยซะทีไหนถ้าคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่อยากให้ชีวิตคู่ของคุณอบอวลไปด้วยความรัก ความสุข คุณและเขาคนนั้นก็ไม่ควรขาดเรื่องสำคัญต่อไปนี้…
1. ซื่อสัตย์ต่อกัน
เรื่องของความซื่อสัตย์ ซื่อตรงต่อกันนั้น นับเป็นหัวใจสำคัญของการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันในครอบครัว เพราะสิ่งนี้หมายรวมไปถึง การให้เกียรติ ความไว้ใจ เชื่อถือศรัทธาระหว่างคนในบ้าน การโกหกหลอกลวงและไม่ซื่อตรงต่อกันนั้น เป็นต้นเหตุให้ครอบครัวมากมายต้องแตกสลายมาแล้ว ดังนั้นถ้าไม่อยากต้องมานั่งกลุ้มใจในภายหลังก็อย่ารินอกใจกันกันเด็ดขาด
2. เปิดเผย จริงใจ
ความปรารถนาดีอย่างจริงใจ เป็นสิ่งที่คนรักกันควรมอบให้โดยไม่ต้องร้องขอ ความกล้าที่จะติเตียน ชี้แนะถึงข้อผิดพลาด และบกพร่องในทุกๆ เรื่อง และต่างพร้อมรับฟังเพื่อช่วยกันแก้ไขข้อบกพร่อง จะทำให้รักของคุณไม่มีวันจืดจางอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นจงอย่ากลัวที่จะพูดความจริงกับคนที่คุณรัก
3. หนักแน่น ไม่ใช้อารมณ์
แม้ว่าจะรักกันเพียงใดก็ตาม แต่เมื่อใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันแล้ว เป็นธรรมดาที่จะต้องมีเรื่องกระทบกระทั่ง โต้เถียงทะเลาะกันบ้าง ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไร เพียงแต่ต้องไม่ลืมตัว ระบายความรู้สึกออกมาด้วยการใช้อารมณ์โกรธเกรี้ยว ดุด่าทำร้ายกัน ในการแก้ปัญหา แม้ว่าจะไม่พอใจขนาดไหนก็ควรตั้งสติ ข่มใจให้สงบเพื่อหาทนทางแก้ไข ปัญหาที่เกิดขึ้นก็จะคลี่คลายไปในที่สุด
4. ร่วมทุกข์ร่วมสุข
ในยามที่เกิดปัญหาขึ้นหรืออุปสรรคในครอบครัว ต้องร่วมมือร่วมใจและอดทนที่จะฝันฝ่าต่อความยากลำบากไปด้วยกัน เป็นเรื่องที่สำคัญมากอีกข้อที่ไม่ควรมองข้ามไป การปลุกปลอบคอยเป็นกำลังใจต่อกันในยามยาก ย่อมจะทำให้เกิดความเข้าอกเข้าใจจนเกิดเป็นความเป็นความผูกพันที่จะทำให้ ความรักที่มีต่อกันแน่นแฟ้นเพิ่มมากขึ้น
5. มีน้ำใจช่วยเหลือกัน
การแสดงน้ำใจด้วยการช่วยเหลือคนในครอบครัว หรือคู่ชีวิตของคุณ โดยไม่ดูดายทอดธุระให้เป็นหน้าที่ของใครเพียงฝ่ายเดียว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่จะทำให้ความรักในหัวใจระหว่างกันไม่เหือดแห้งหายไป
6. ให้อภัยเมื่อทำผิด
สุภาษิตเขายังบอกว่า “สี่ตีนยังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง” แล้วจะประสาอะไรกับคนธรรมดาๆ อย่างตัวคุณเองหรือคนที่คุณรัก ที่คงจะต้องมีเรื่องผิดพลาดในชีวิตขึ้นบ้าง จงให้อภัยและให้โอกาสเขาแก้ตัวใหม่อีกครั้ง
7. ไม่ริดรอนความเป็นส่วนตัว
ถึงแม้ว่าจะรักกันปานใด แต่มนุษย์ทุกคนยังคนรักอิสระ และต้องการเก็บความเป็นส่วนตัว (แม้จะเหลืออยู่ไม่มากนัก) เพราะฉะนั้นต้องเคารพในความเป็นส่วนตัวของอีกฝ่าย ไม่ก้าวก่าย วุ่นวาย และให้อิสระในการใช้ชีวิตต่อกันบ้าง หมดสมัยแล้วกับการที่จะต้องฝืนใจทำสิ่งที่ไม่ชอบเพื่อเอาใจกัน ถ้าทำได้อย่างนี้ชีวิตคู่ของคุณก็จะแฮปปี้ ไม่มีปัญหา
8. บอกรักกันบ้าง
แม้จะไม่บอกด้วยคำพูดตรงๆ แต่การกระทำที่แสดงออกถึงความรักตามสไตล์หรือแบบฉบับของคุณเอง ที่จะสื่อสารให้อีกฝ่ายได้รับรู้ถึงความรู้สึกรักที่คุณมีให้ จะเป็นน้ำจิ้มรสเด็ดที่จะช่วยให้ชีวิตรักของคุณทั้งสองมีสีสันมากขึ้น ความโรแมนติก สวีทหวานแหววนานๆ เอามาใช้ให้ชุ่มฉ่ำหัวใจเสียบ้าง ก็ไม่เสียหายหรอก

ความสับสนของความรัก

วันพุธที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2554

คติเตือนใจดีมาก ๆ

1. นึกไว้เสมอว่าการโกรธ 1 นาที จะทำให้ความทุกข์อยู่กับเธอ 3 ชั่วโมง
2. ถ้ายิ้มให้กับคนที่อยู่ในกระจก รับรองว่าเค้าต้องยิ้มตอบกลับมาทุกครั้งแน่!
3. หลับตานิ่งๆ ซัก 3 นาที เมื่อรู้สึกว่าอะไรตรงหน้ามันช่างยากจัง
4. ระหว่างแปรงฟันถ้าฮัมเพลงด้วยไปจนจบจะทำให้ฟันสะอาดขึ้น 2 เท่าแน่ะ
5. เคี้ยวข้าวแต่ละคำให้ช้าลง จากที่รสชาติธรรมดาก็จะอร่อยขึ้นเยอะ
6. ควรหัดพูดคำว่า “ไม่เป็นไร” ให้เคยปากมากกว่าการพูดคำว่า “จะเอายังไง”
7. สัตว์เลี้ยงที่บ้านเก็บความลับเก่ง เรื่องที่ไม่อยากให้คนอื่นรู้จึงเล่าให้มันฟังได้
8. อาหารที่ไม่ชอบกินตอนเด็ก ลองตักเข้าปากอีกที เผื่อจะกลายเป็นอาหารจานโปรด
9. เขียนชื่อคนที่เธอเกลียดใส่กระดาษแล้วฉีกทิ้งความเกลียดจะเบาบางลงเรื่อยๆ
10. ให้ปล่อยน้ำตาไหลโดยไม่ต้องเช็ด เมื่อน้ำตาแห้ง จะดูไม่ออกว่าเพิ่งร้องไห้มา
11. ก่อนจะซื้ออะไรก็ตาม ต้องคิดหาประโยชน์ของมันให้ได้อย่างน้อย 3 ข้อก่อน
12. ถึงเสื้อกางเกงในตู้จะมีอยู่น้อย แต่ถ้าสลับกันไปเรื่อยๆก็ดูเหมือนจะเยอะขึ้น
13. เลือกให้ของขวัญคนที่ไม่เคยได้ ดีกว่าคนได้เยอะจนจำชื่อคนให้ไม่หมด
14. ในวันที่รู้สึกเศร้าๆ เหงาๆ เดินไปซื้อดอกไม้ให้ตัวเองซักดอกแล้วจะดีขึ้น
15. แอบรักใครซักคน ยังไงก็ดีกว่าไม่เคยรู้ว่าความรู้สึก “รัก” เป็นยังไง
16. ถึงจะไม่ได้ออกไปไหน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าแต่งตัวสวยๆ หล่อๆ ไม่ได้นี่
17. พยายามอ่านหนังสือทุกชนิดในมือให้จบเล่มอาจไม่สนุกแต่มีประโยชน์แฝงอยู่
18. วันที่ตื่นเช้าๆ ให้บิดขี้เกียจนานที่สุดเท่าที่จะทำนานได้ ถ้าขี้เกียจออกกำลังกายน่ะ
19. รู้รึเปล่าว่าดอกไม้ที่บานอยู่กับต้น ยังไงก็อยู่ได้นานกว่าบานในแจกัน
20. ทะเลาะกับใครๆ พร้อมรอยยิ้ม เรื่องราวจะจบง่ายกว่าที่คิดเยอะ
21. เอารูปตัวเองตอนเด็กๆ มาดูตอนเครียดอารมณ์จะดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ
22. พยายามหาข้อบกพร่องของคนที่เธออิจฉาอย่างน้อยก็มีข้อปลอบใจตัวเองบ้าง!
23. โทรไปหาแฟนแล้วพูดแคคำเดียวว่า “คิดถึง” พอวางสายแล้วต้องยิ้มทั้งคู่
24. ในวงสนทนาถ้ายังนึกไม่ออกว่าจะคุยอะไรรอยยิ้มช่วยแก้สถานการณ์ได้
25. ค่อยๆ เดินทอดน่องแบบสบายๆ ในวันที่ไม่มีธุระให้ต้องไปสะสาง
26. ซื้อของฝากทุกคนในบ้าน ก็เหมือนกับการซื้อของฝากตัวเองนั่นแหละ
27. จะหน้าตายังไงก็แล้วแต่ ถ้าทิ้งขยะลงพื้นก็กลายเป็นขี้เหร่ได้ทันตาเห็น
28. นั่งสมาธิให้นานๆ และบ่อยๆ ก็ทำให้ผิวสวยขึ้นได้เหมือนกัน
29. นอกจากตอนที่เคี้ยวข้าวแล้ว ไม่ว่าก่อนหรือหลังกินก็หัวเราะได้อร่อย
30. จินตนาการถึงเรื่องที่อยากมีหรืออยากเป็นคือยานอนหลับอย่างหนึ่ง
31. อ่านหนังสือหรือการ์ตูนโปรดเป็นการเติมน้ำมันให้ตัวเองอย่างดี
32. ยังไม่มีใครเคยแย้งว่า การอาบน้ำไม่สามารถคลายเครียดได้จริงๆ
33. ก่อนจะด่าใครให้นับ 1 ถึง 50 เผลอๆ อาจจะไม่อยากด่าแล้วก็ได้
34. ไม่ต้องทำยังไงกับเพื่อนที่หักหลังก็แค่อย่าเรียกเค้าว่าเพื่อนก็พอแล้ว
35. รักครั้งแรกส่วนใหญ่ก็อกหักทั้งนั้น น่าจะดีใจที่ไม่แปลกกว่าชาวบ้านเค้า
36. การที่ทำของหายอาจเป็นการใช้หนี้ของชาติที่แล้วให้คนอื่นที่เก็บมันได้
37. ถึงจะไม่มีเงินอยู่ในกระเป๋าซักบาท ยังดีกว่าไม่มีเสื้อผ้าให้ใส่ตั้งเยอะ
38. หนี้ที่โดนเบี้ยวไป ทำให้เรารู้จักใครบางคนดีขึ้นโดยไม่ต้องใช้เวลามาก
39. คนอื่นไม่เข้าใจเราไม่เห็นแปลก ในเมื่อเราก็ไม่เข้าใจคนอื่นเหมือนกัน
40. ไม่ต้องช่วยใครๆ ด่าตัวเอง ถ้าสิ่งที่ทำไปแน่ใจว่าพยายามเต็มที่แล้ว
41. วิ่งให้เหนื่อยมากๆ ความโกธรจะได้ถูกขับออกมาพร้อมกับเหงื่อ
42. ถ้ากลัวจะนอนฝันร้าย สวดมนต์ก่อนนอนเหมือนตอนเด็กๆ ดูสิ
43. ของฝากสำหรับคนห่างไกล คือการโผล่ไปเซอร์ไพรส์ด้วยตัวเอง
44. เพลงจังหวะมันๆ ทำให้คนฟังกระปรี้กระเปร่าได้โดยอัตโนมัติ
45. อย่าเดาว่าอะไรอยู่ในกล่องของขวัญ แล้วจะไม่รู้จักคำว่าผิดหวัง

วันจันทร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2554

รักเขายังไงไม่ให้เป็นทุกข์

1. ขณะรักควรมีความสุขได้ด้วยตัวเอง คนอื่นที่เข้ามาเติมความสุขให้ ถือเป็นเพียงโบนัสที่เพิ่มเข้ามา
2. ขณะรักควรปรารถนาให้ผู้อื่นเกิดสุขด้วย ไม่ใช่คิดถึงแต่ความสุขของเราฝ่ายเดียว เช่น เมื่อคนที่เรารักไม่รักเรา แต่เขามีความสุขของเขา แม้เราจะเศร้าก็ยังคิดได้ว่า อย่างน้อยก็ได้เห็นคนที่เรารั กมีความสุข
3. ลดความคาดหวัง แม้เราจะเป็นปุถุชน ซึ่งคงตัดความคาดหวังไม่ได้ แต่ถ้าเรายิ่งคาดหวังจากอีกฝ่ายน้อยลงเท่าไหร่ โอกาสที่เราจะสุขสมหวังก็ยิ่งมากขึ้น
4. ยอมรับความแตกต่าง ทั้งด้านสรีระและความคิดของผู้อื่น ความคิดไม่ตรงกันนั้น ถือเป็นเรื่องธรรมชาติ หากฝ่ายหนึ่งไม่พยายาม ทำให้อีกฝ่ายคิดเหมือนกัน และพยายามเข้าใจว่าเหตุใดจึงคิดต่างกัน ปัญหาก็จะไม่เกิด หากเข้าใจและยอมรับได้แล้ว เมื่อเห็นเขาทำตัวไม่ถูกใจ ไม่น่ารัก ขี้บ่น ใจร้อน เราก็จะปรับตัวให้เข้ากับเขาและมอบความรักให้ได้ง่ายขึ้น
5. ยอมรับความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ความรักจึงจะยืนยาว เพราะความเปลี่ยนแปลงเป็นธรรมดาของโลก เพลงโปรด ฟังซ้ำ อาหารจานประจำ กินบ่อยก็เบื่อ ความรักที่เคยจี๋จ๋าหวานแหวว อาจจืดจางลง แต่ยังคงความผูกพันและสัมพันธ์อันดี หรือแม้จะเลิกรา บางคู่ก็ยังเป็นเพื่อนรู้ใจต่อกันได้
6. ไม่ควรทำแต่สิ่งที่ตัวเองชอบ หรือสิ่งที่ตนคิดว่าดีให้คนอื่นเพียงอย่างเดียว จะต้องมองถึงความต้องการของเขาด้วย จะได้ไม่ต้องมาน้อยใจว่าเราอุตส่าห์หวังดี ยอมเหน็ดเหนื่อยทำเพื่อเขา แต่เขากลับไม่เห็นคุณค่า
7. ความเกรงใจ เป็นองค์ประกอบสำคัญ เพราะคนใกล้ชิดสนิทกัน มักคิดว่าจะสามารถทำอะไรตามใจ ตัวได้แทบทุกเรื่อง จนลืมนึกถึงความรู้สึกของอีกคนไป
8. พูดจาชื่นชมในสิ่งดีของกันและกัน เป็นอีกหนึ่งวิธีมอบความรักที่ควรทำ บางคนละเลยว่าอยู่ด้วยกันมานาน เรื่องดีเขาคงรู้อยู่แล้วไม่ต้องชม จึงเอาแต่พูดถึงสิ่งไม่ดี หรืออยากให้อีกฝ่ายเปลี่ยนแปลง เอาแต่บ่นโดยไม่เคยชม คนฟังก็ท้อใจเหมือนกัน
9. ถ้ารักแล้วไม่แสดงออกเลยอีกฝ่ายก็คงไม่รู้ เพราะเขาไม่มีตาทิพย์ แต่การแสดงความรู้สึกแค่ไหน อย่างไร คงต้องดูว่าเป็นสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการด้วย ส่วนความต้องการของเราก็ควรบอกตรงๆ ไม่ใช่คาดหวังให้คู่ของเราเป็นหมอดู คอยเดาใจ
และ ถ้าจะรักให้ดีต่อสุขภาพจิต ทุกคนควรคิดว่าความรักนั้นเหมือนกับ ดอกไม้ที่สวยงาม หรือเป็นของหวานสำหรับชีวิต อย่ายึดติดว่าเป็นทุกสิ่งทุกอย่าง อย่าคิดว่า "รัก" เป็นข้าวปลาอาหารหรืออากาศที่ขาดไม่ได้!!

วันอาทิตย์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2554

รักไม่จำกัดนิยาม

สารรักวัยเรียน..อย่างสร้่างสรรค์

รักล้อมรั้ว (centerpoint)
เรื่องของความรัก เป็นเรื่องที่ไม่มีเหตุผล หรือหาเหตุจับต้นชนปลายไม่ถูก อยู่ ๆ จะมานึกอยากให้รัก นึกอยากให้เลิกเหมือนถือรีโมททีวี ที่อยากจะเปลี่ยนช่องตอนไหนก็เปลี่ยนได้ซะเมื่อไหร่ล่ะ คนนะไม่ใช่ทีวี และถ้าหากเจ้าความรักมันมาในช่วงเรียนล่ะ จะทำยังไงกันดี วันนี้ลองมาดูวิธีรับมือกับความรักวัยเรียนกันดีกว่า

สานรักอย่าสร้างสรรค์
รักในวัยเรียนน่ะมีได้ แต่เรื่องเรียนต้องมาก่อน ใครจะมีรักในวัยเรียนก็ต้องไม่ทิ้งเรียน เป็นติวเตอร์ให้กัน ช่วยกันทำการบ้านหรือทำกิจกรรมสร้างสรรค์ เดี๋ยวนี้มีเวทีประกวดและแข่งขันมากมายให้คนวัยเรียนได้ประลองความคิดความสามารถหันมาทำกิจกรรมดีๆไปด้วยเรียนไปด้วยดีกว่า มีเวลาอยู่ใกล้ชิดกันและไม่ทิ้งเรื่องเรียน ได้ทั้งคะแนนรักและคะแนนเรียน ส่วนเรื่องฮอร์โมนที่มันพลุ่งพล่านอยู่ข้างใน ท่องเอาไว้ “อย่าใจอ่อน”

ใช้เหตุผลเหนืออารมณ์
ตอนรักกันก็โปรโมชั่นเลิศซะสุดฤทธิ์ แต่ช่วงหมดโปรฯนี่แหละที่มักจะเดือดร้อนคนรอบข้างอยู่เสมอ อย่างนี้มันต้องเจอการตัดสัญญาณด้วยการใช้ ‘เหตุผลเหนืออารมณ์’ มีตัวอย่างคู่รักที่ทะเลาะกันปางตายให้เห็นตามสื่ออยู่มากมาย ถึงขั้นลงไม้ลงมือเพราะขาดวัยวุฒิด้วยกันทั้งคู่ คุณคงไม่อยากตกเป็นเป้าสายตาของคนรอบข้างที่มองคู่ของคุณอย่างระอาใจ ส่ายหน้าหรือเบือนหน้าหนีแทบไม่ทัน ตัดไฟซะตั้งแต่ต้นลมด้วยเหตุผลกันดีกว่า
ล้อมรั้วความรักของคุณให้อยู่ถูกที่ถูกทาง สร้างสรรค์อย่างมีสติ ไม่เกินขอบเขตจนเกินงาม เรียนเป็นเรียน เล่นเป็นเล่น มีเวลาสังสรรค์กับเพื่อนพ้องและให้เวลากับคนในครอบครัว มีความสุขในวัยเรียน เป็นวัยรุ่นตัวอย่างให้ครอบครัวได้ชื่นใจ เต็มที่กับชีวิตในเดือนแห่งความรักนะคะ

ตั้งกฎเหล็ก
วัยเรียนที่มีรัก ต้องใจแข็ง อย่าจอ่อนหรือปล่อยให้ความรักมาบังตาจนตาบอด ควรตั้งกฎเหล็กไว้เลยว่า ห้ามใกล้ชิดจนเกินงามทั้งในที่ลับและที่แจ้ง คนในครอบครัวต้องรับรู้เสมอว่าจะไปทำอะไร ที่ไหน เมือ่ไหร่ กับใคร เพราะถ้าใจอ่อนหรือยอมรับซะตั้งแต่แรก เกิดอดใจไม่ไหวไม่มีใครคอยห้ามใคร คราวนี้ล่ะคุณคุณนักรักในวัยเรียนทั้งหลาย …เดือนร้อนกันถ้วนทั่วแน่ๆดังนั้นกฎเหล็กต้องเป็นกฎเหล็กที่ห้ามยืดหยุ่นให้ใครเป็นอันขาด

วันเสาร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2554

เรื่องน่าห่วงของหญิงสาว

สิ่งต้องหาม สำหรับคนพึ่งอกหัก

อยากร้องไห้ ร้องไปเลย
ร้องให้พอ แล้วปรับตัวปรับใจมาเริ่มต้นใหม่กันดีกว่า พยายามหางานทำ ทำงานที่ต้องรับผิดชอบให้ดีที่สุด เอาเวลาเอาสมอง ไปคิดสิ่งที่เป็นประโยชน์ดีกว่า อย่าไปหมกหมุ่นกับสิ่งที่ทำให้เราเสียสุขภาพจิต
อย่าคิดทำร้ายตัวเอง
พ่อแม่รักเรา เลี้ยงเรามา แทบตาย ทำไมกับ ผู้ชายห่วยแตกคนเดียว ใครที่ไหน ก็ไม่รู้ เค้าทำให้เราเจ็บใจ แล้วยังไม่พอ เค้ามีค่าทำให้เรา ต้องอุทิศชีวิต ให้เลยหรือ กลับไปหา พ่อแม่ ท่านรักเรา มากที่สุด ไม่มีใคร รักเรา เท่านี้อีกแล้ว ไอ้ที่ว่า ผมรักคุณ รักนักรักหนา อย่าไปเชื่อมากนัก แบ่งใจไว้บ้าง
อย่าปล่อยเนื้อปล่อยตัว
ให้ดูไร้ค่า บางคนโมโห แล้วกินจนอ้วน บางคนก็โทรม บางคนก็ ประชดชีวิต ทำตัวเองให้มันเลว ไปซะเลย มันไม่มีอะไรดีหรอก เค้าจะยิ่ง สมน้ำหน้าเรา เราต้อง ทำตัวให้ดีขึ้น ให้เค้ารู้สึก เสียดายเราจะดีกว่า
อย่าอยู่คนเดียว
ควรหาเพื่อนคุย หรือหาอะไรทำ จะได้ไม่คิดมาก
อย่าดูหนังโรแมนติก หรือฟังเพลงเศร้า
เพราะเราจะมีอารมณ์คล้อยตาม มันยิ่งจะเศร้าไปกันใหญ่
อย่าเอารูป หรือของเก่า ๆ มาดู
ห้ามนำของที่มีความหลัง มาดู เป็นอันขาด ดูไป ก็ไม่มีอะไรดีขึ้นหรอก
อย่าพยายามผ่าน หรือไปใน สถานที่ ที่เคยไปด้วยกัน
อย่าคิดว่า ชีวิตนี้ขาดเค้าไม่ได้
ถ้าไม่มีเค้า แล้วเราจะตาย เพราะแต่ก่อน ที่ยังไม่เจอเค้า เราก็อยู่ได้ จริงไม๊ ดีแล้วที่ เค้าเลิกไปซะ เราจะได้มีโอกาส เจอคนดีกว่านี้อีก ต้องมีกำลังใจ อย่าท้อแท้ ชีวิต เราต้องก้าวไปข้างหน้า หาในสิ่งที่ดีกว่า
อย่าโทรศัพท์ไปง้องอนเค้าเป็นอันขาด
เสียเหลี่ยม ลูกผู้หญิงหมด เค้าอาจจะสงสาร แล้วกลับมาดีอีก แต่มันก็คง ไม่เหมือนเดิม จะทำไปทำไม เอามาแต่ตัว แต่หัวใจไม่มา

รักก็รัก ทิ้งก็ทิ้ง

ในวันที่คุณ...หมดกำลังใจ

นึกถึงตัวเราเองอย่างคนนอกมองเข้ามา เป็นคำตอบที่ได้มาเยอะมากที่สุดในการหาข้อมูล การนึกถึงตัวเราเองในที่นี้คิดได้ในหลายแง่ เช่น มองสภาพที่เห็น ให้เป็นไปตามสิ่งที่มันเป็น อย่าเข้าข้างตัวเองเกินไป ทำตัวเป็นคนนอก แล้วดูว่าถ้าเราเป็นคนนอก เราจะคิดอย่างไร และที่สำคัญที่สุด เวลามีปัญหาสิ่งที่ควรจะมีเป็นสิ่งแรกคือสติ ดั่งคำกล่าวที่ว่า สติมาปัญญาเกิด
อยู่กับคนที่เรารัก เช่น พ่อ แม่ พี่น้อง ผู้มีพระคุณ เพื่อนฝูงหรือคนที่เรารัก ทุกบุคคลที่ยกตัวอย่างมา ในชีวิตของคนเราคงต้องมีซักคนที่กล่าวมาแล้วเกี่ยวข้องในชีวิตของเรา และ อย่างน้อยน่าจะมีซักคนที่เราคิดถึงหรือนึกถึงในช่วงเวลาที่เรารู้สึกแย่ๆ กับปัญหา บางครั้งในขณะที่เราจมอยู่กับปัญหา คำตอบที่เราไม่สามารถหาได้ ทางออกดีๆ หรือคำตอบของปัญหาต่างๆ อาจจะมาจากคนรอบๆ ข้างเราก็ได้ เพียงแต่เปิดใจให้กว้างและรับฟังความคิดของคนอื่น การคุยกับเพื่อนเพื่อแลกเปลี่ยนความคิด เป็นสิ่งที่ดีในยามที่เรามีปัญหา อย่างน้อยที่สุดการได้ระบายความรู้สึกออกมาก็พอจะทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายว่ามีคนรับฟังเรา จะได้ไม่รู้สึกว่าโลกนี้มีแต่เราเพียงคนเดียว
ธรรมะ คนหลายๆ คนจะนึกถึงธรรมะเมื่อมีปัญหาคงจะไม่ใช่สิ่งผิดที่จะคิดอย่างนั้น เพราะธรรมะเป็นเรื่องของการฝึกจิตใจให้ยอมรับความเป็นไปของโลกนี้ การฝึกนั่งสมาธิไม่ใช่เรื่องยากและยังเป็นที่นิยมในคนยุคใหม่ ถ้าคุณผู้อ่านยังไม่มีโอกาสได้ไปลองหาเวลาไปดูนะครับ อาจจะทำให้ใจที่มันร้อนอยู่ตอนนี้เย็นลงได้ แต่คงจะเป็นการดีกว่าที่เราจะเรียนรู้เรื่องของธรรมะ ตั้งแต่ตอนที่เราไม่มีปัญหาเพื่อจะเป็นเกราะป้องกันตัวเราเวลาเราต้องเผชิญ กับสิ่งร้ายๆ ที่เข้ามาในชีวิต
ปลง คำๆ เดียวง่ายๆ แต่มีความหมายยากที่จะทำได้ แต่ก็ไม่เกินความสามารถของมนุษย์ที่จะทำ ปลงในที่นี้คือการทำใจยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นว่ามันเกิดขึ้นแล้ว ตัวเราคงจะไม่สามารถทำอะไรกับมันได้ สิ่งที่ทำได้เพียงอย่างเดียวก็คือการทำจิตใจของเราให้ยอมรับสิ่งที่มันเป็นไป ปลงในที่นี้ไม่ได้หมายถึงให้หมดอาลัยตายอยากกับชีวิต แต่เป็นการปลงเพื่อที่จะได้มีชีวิตอยู่และก้าวต่อไป เพื่อเจอกับสิ่งที่ดีกว่าที่จะเข้ามาในชีวิต

วันศุกร์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2554

ข้อคิด ข้อเตือนใจ เรื่องความรัก

1. การรักและไม่ได้รับรักตอบ เป็นทุกข์ แต่สิ่งที่ทุกข์ยิ่งกว่า คือการรักใครสักคน แต่ไม่มีความกล้าพอที่จะบอกให้คนคนนั้นรูต้องมาเสียใจภายหลัง

2. พระเจ้าอาจจะต้องการให้เราพบคนที่ไม่ใช่..ก่อนที่จะมาพบคนที่ใช่ เพื่อเวลาเราพบคนคนนั้นแล้ว เราจะได้รู้สึกซาบซึ้งถึงพรที่ท่าน ประทานมา 
3. ความรักคือความรู้สึกที่คุณยังห่วงใยใครสักคนอยู่ แม้จะแยกความ รู้สึก ความลุ่มหลง และความสัมพันธ์แบบรักใคร่ออกไปแล้ว 
4. สิ่งที่น่าเศร้าในชีวิต คือการพบคนที่มีความหมายอย่างมากสำหรับเรา แต่มาค้นพบภายหลังว่าเราไม่ได้ถูกกำหนดมาเพื่อสิ่งนั้น และจะต้องปล่อยให้ผ่านพ้นไป 
5. เมื่อประตูแห่งความสุขปิดลงประตูแห่งความสุขบานอื่นก็จะเปิดขึ้นแต่เราก็มัวแต่มองประตูที่ปิดลงไปแล้วเนิ่นนานจนกระทั่งเรามองไม่เห็นประตูที่เปิดไว้รอ 
6. เพื่อนที่ดีที่สุดคือคนที่คุณสามารถนั่งอยู่ริมระเบียงด้วยกันโดยไม่พูดอะไรกันสักคำ แต่สามารถเดินจากไปด้วยความรู้สึกเหมือนได้คุยกัน อย่างประทับใจที่สุด 
7. เป็นความจริงที่เราไม่สามารถรู้เลยว่าเรามีอะไรอยู่จนกว่าเราจะสูญเสียมันไป แต่ก็จริงอีกเช่นกันที่เราไม่รู้ว่าเราพลาดอะไรไปบ้างจนกระทั่งสิ่งนั้นเข้ามาหาเรา 
8. การมอบความรักทั้งหมดให้ใครสักคนไม่ได้เป็นหลักประกันว่าเขาจะรักเราตอบ อย่าหวังที่จะได้รักตอบ แต่จงรอให้มันงอกงามขึ้นในหัวใจเขา แต่ถ้ามันไม่ได้เป็นเช่นนั้น ให้พอใจว่าอย่างน้อยมันก็ได้งอกงามขึ้นในใจของเราเอง 
9. มีสิ่งที่คุณต้องการจะได้ยิน แต่คุณจะไม่ได้ยินมันจากปากของคนที่คุณอยากได้ยิน แต่อย่าทำตัวเป็นคนหูหนวกโดยไม่รับฟังสิ่งนั้นจากคนที่เขาบอกกับคุณจากหัวใจ 
10. อย่าบอกลาถ้าคุณยังต้องการจะพยายามต่อไป อย่าท้อใจถ้าคุณยังรู้สึกว่าคุณไปไหว อย่าพูดว่าคุณไม่รักคนคนนั้นอีกแล้ว ถ้าคุณไม่สามารถทำใจ
11. ความรักมักมาเยือนผู้ที่ยังคงหวัง ถึงแม้ว่าจะผิดหวัง และมาเยือนผู้ที่ยังคงเชื่อ ถึงแม้ว่าจะถูกทรยศหักหลัง และจะมาเยือนผู้ที่ยังคงรัก ถึงแม้จะเคยเจ็บปวดมาก่อน 
12. การที่เราจะประทับใจใครนั้นใช้เวลาแค่เพียงนาที การที่เราจะชอบใครใช้เวลาเพียงแค่ชั่วโมง การที่เราจะรักใครใช้เวลาเพียงชั่ววัน แต่การที่จะลืมใครนั้นต้องใช้เวลาชั่วชีวิต 
13. อย่ามองใครจากหน้าตา เพราะมันอาจหลอกเราได้ อย่ามองใครจากความร่ำรวย เพราะมันไม่จีรังยั่งยืน ให้มองหาคนที่ทำให้คุณยิ้มได้ เพราะเพียงยิ้มเดียว สามารถทำให้วันที่หม่นหมองกลับสดใส ขอให้คุณพบคนที่ทำให้คุณยิ้มได้ 
14. มีช่วงเวลาในชีวิตที่คุณคิดถึงใครสักคนจนกระทั่งอยากดึงเขา มาจากความฝันเพื่อกอดเอาไว้ขอให้คุณได้ฝันถึงคนพิเศษนั้น 
15. ฝันถึงสิ่งที่คุณต้องการฝัน ไปในที่ที่คุณต้องการไป เป็นในสิ่งที่คุณต้องการเป็น เพราะคุณมีเพียงชีวิตเดียว และมีโอกาสเดียวที่จะทำทุกสิ่งที่คุณต้องการ 
16. ขอให้คุณมีความสุขมากพอที่จะทำให้คุณเป็นคนอ่อนหวาน ผ่านการทดสอบมามากพอที่จะทำให้คุณเข้มแข็ง มีความเศร้าโศกพอที่จะทำให้คุณยังคงความเป็นมนุษย์ และมีความหวังมากพอที่จะทำให้คุณเป็นสุข 
17. เอาใจเขามาใส่ใจเรา ถ้าคุณรู้สึกว่าสิ่งนั้นจะทำให้คุณเจ็บปวด รู้ไว้เถอะว่าคนอื่นก็เจ็บปวดจากสิ่งเดียวกันเช่นกัน 
18. คำพูดที่ไม่ได้ยั้งคิดอาจก่อให้เกิดความขัดแย้ง คำพูดที่โหดร้ายอาจทำลายชีวิต คำพูดที่เหมาะกาละเทศะอาจลดความเครียด คำว่ารักอาจเยียวยาและทำให้มีสุข 
19. จุดเริ่มของความรักคือการปล่อยให้คนที่เรารักเป็นตัวของตัวเอง อย่าดึงเขาจากภาพความเป็นเขา มิฉะนั้นจะหมายความว่ามันเป็นเพียงภาพสะท้อนของตัวเรา ที่ปรากฎในพวกเขา 
20. คนที่มีความสุขที่สุดไม่ได้หมายความว่าเขามีสิ่งที่ดีที่สุด เพียงแต่เขาสามารถทำสิ่งที่เขามีให้ดีที่สุดได้ต่างหาก 
21. ความสุขรออยู่เบื้องหน้าผู้ที่มีน้ำตา ผู้ที่เจ็บปวด ผู้ที่ค้นหา และผู้ที่ พยายามแล้ว เพราะมีเพียงพวกเขาเท่านั้นที่รู้จักคุณค่า-ของผู้คนที่ได้สัมผัสชีวิต 
22. ความรักเริ่มต้นด้วยรอยยิ้ม งอกงามด้วยรอยจูบ และจบลงด้วยคราบน้ำตา 
23. อนาคตที่สดใสมีรากฐานอยู่บนอดีตที่แสนเจ็บปวด คุณไม่สามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้ดี ถ้าหากไม่รู้จักปล่อยวางความผิดพลาดในอดีต และความปวดใจ 
24. คุณร้องไห้ตอนคุณเกิดในขณะที่คนรอบข้างกำลังยิ้ม จงมีชีวิตอยู่เพื่อเมื่อตอนคุณตาย คุณจะเป็นคนที่ยิ้ม ในขณะที่คนรอบข้างร้องไห้ให้คุณ 
25. ความรักก็เหมือนกับการเสี่ยง คุณอาจจะต้องพบกับความล้มเหลว แต่ถ้าคุณไม่เสี่ยง คุณก็อาจจะต้องพบกับความล้มเหลวตลอดไป 
26. ความรัก มักเหมือนแก้วบาง ถ้าหากคุณมือหนัก แก้วที่คุณถือ ก็อาจจะต้องแตกร้าวทุกครั้งที่คุณใช้มัน 
27. ความรัก ง่ายที่เราจะหามัน แต่ยากที่จะรักษาเอาไว้ให้คงอยู่ตลอดไป

วันพฤหัสบดีที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2554

วิธีปฏิเสธเซ็กส์

1.ไม่ควรอยู่ด้วยกันสองต่อสอง ในสถานที่ลับตา
2. ไม่ควรแต่งตัวล่อแหลม เพราะอาจจะทำให้ผู้ชายเกิดอารมณ์ทางเพศได้
3. รู้จักการปฏิเสธให้เป็น
4. การมีเพศสัมพันธ์แบบภายนอก คือการมีเพศสัมพันธ์แบบไม่สอดใส่ เป็นการร่วมเพศแบบ
    อินเตอร์ครอส หรือการช่วยอีกฝ่ายให้สำเร็จความใคร่ วิธี้นี้ไม่เสี่ยงต่อการติดโรคและการตั้งครรภ์
5. หากจำเป็นต้องมีเซ็กซ์ควรจะสวมถุงยางป้องกันในผู้ชาย สำหรับผู้หญิงก็ควรกินยาคุมกำเนิดจะเป็นตัว 
    ช่วยที่ดีที่สุด


วิธีที่ดีที่สุด คือ อย่าพาตัวเองให้ไปอยู่ในสถานที่ที่เสี่ยงต่อการมีเพศสัมพันธ์ ไกลหูได้แต่อย่าไกลตาผู้คน

เหตุผลที่ไม่ควรอ้างเพื่อแต่งงาน

1. อย่าแต่งงานเพราะกลัวไม่ได้แต่ง
2. อย่าแต่งงานเพรา อยากออกจากครอบครัวเดิม
3. อย่าแต่งงานเพื่อประชดแฟนเก่า
4. อย่าแต่งงานเพราะสงสารเขา
5. อย่าแต่งงานเพราะทรัพย์สมบัติของเขา
6. อย่าแต่งงานเพราะหนีตัวเอ
7. อย่าแต่งงานเพราะความเหงา

วันพุธที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2554

การเลือกคู่ครอง

1.ระดับการศึกษา
2.มีความซื่อสัตย์
3.วุฒิภาวะทางอารมณ์
4.มีความเป็นผู้นำและกล้าตัดสินใจ
5.ฐานะความเป็นอยู่และภูมิหลังของครอบครัว
6.มีการงานมั่นคง
7. มีมนุษยสัมพันธ์ดี
8. มีใจกว้างและเสียสละไม่เห็นแก่ตัว
9. มีรสนิยม ความสนใจใกล้เคียงกัน
10.เชื้อชาติศาสนาวัฒนธรรม ไม่ต่างกันนัก
11.อายุไม่ต่างกันมากนัก
12.ไม่ติดสุรา ยาเสพติด และ การพนัน  
13.มีสุขภาพสมบูรณ์ทั้งกายใจ


รูปแบบของความรัก

1. ความรักแบบเสน่หา (Eros)
ความรักเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตแม้จะไม่มากพอที่จะทำลายตนเองรู้สึกถูกใจอีกฝ่ายตั้งแตแรกเห็นคล้ายรักแรกพบความดึงดูดใจซึ่งกันและกันแสดงออกมาทั้งคำพูดและการแสดงความใกล้ชิดอยากเจอกันทุกวันถ้าเป็นไปได้วาดฝันเกี่ยวกับอีกฝ่ายไว้งดงามและไม่ได้คาดการณ์ถึงอุปสรรคใด ๆคู่รักประเภทนี้พยายามพัฒนาสัมพันธภาพกับคู่ของตนอย่างรวดเร็ว
โดยการ เปิดเผย ซื่อสัตย์ และจริงใจใส่ใจคู่รักมากเป็นพิเศษแต่ไม่แสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของหรือกลัวว่าจะมีคู่แข่ง

2. ความรักแบบไม่ผูกมัด (Ludus)
ความรักเป็นเกมชนิดหนึ่งเพื่อความบันเทิงของทั้งสองฝ่ายหลีกเลี่ยงการ ผูกมัด สามารถผลัดเปลี่ยนคู่ไปได้เรื่อยๆพยายามที่จะไม่สร้างความผูกพันทางอารมณ์อย่างลึกซึ้งกับใคร เพื่อรักษาความเป็นอิสระของตนถึงแม้จะไม่ต้องการทำให้อีกฝ่ายเจ็บปวดแต่การโกหกและความไม่จริงใจถือว่าเป็นการเล่นตามกติกาที่มีความรักแบบนี้จะไม่หึงหวงหรือแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของและอาจเห็นชอบให้คู่ของตนมีความสัมพันธ์กับผู้อื่นได้ทั้งนี้เพื่อสร้างความสมดุลในความสัมพันธ์ของตน

3. ความรักแบบมิตรภาพ (Storge)
ความรักพัฒนามาจากมิตรภาพเป็นความรู้สึกรักใคร่อันเนื่องมาจากการคบหากันมาเป็นเวลานานไม่ได้มีความ รู้สึกตื่นเต้น เร่าร้อน แต่เน้นการที่ทั้งสองฝ่ายมีความสนใจร่วมกันและมีกิจกรรมร่วมกันความรักเป็นสิ่งที่มั่นคงที่ผนวกเข้าไปกับการดำรงชีวิตตามปกติ

4. ความรักแบบลุ่มหลง (Mania)
ผู้ที่มีความรักแบบนี้จะใฝ่หาความรัก แต่เชื่อว่าความรักเป็นความเจ็บปวดปรารถนาความใกล้ชิดและต้องการความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ ต้องการให้คู่รักของตนแสดงความรักมากกว่าปกติ
เมื่อใดที่คู่ไม่ได้แสดงความใส่ใจ หรือไม่แสดงความรักตามที่ปรารถนาอาจจะทำร้ายตนเพื่อเอาชนะความรักคู่รักประเภทนี้เชื่อว่าเมื่อปราศจากความรักจากอีกฝ่ายชีวิตก็ไม่มีคุณค่าอีกต่อไป

5. ความรักแบบมีเหตุผล (Pragma)
เป็นความรักที่ตั้งอยู่บนรากฐานของความเป็นจริงผู้ที่มีความรักแบบนี้จะแสวงหาคู่ที่เหมาะสมกับตนมากที่สุดเชื่อว่าความสัมพันธ์จะราบรื่นก็ต่อเมื่อคู่รักสามารถตอบสนองความต้องการพื้นฐานของกันและกันได้แสวงหาคนที่มีลักษณะคล้ายตนหรือต่างจากตนแต่ช่วยเติมเต็มส่วนที่ขาดการเลือกคู่จะมีลักษณะคล้ายรักเผื่อเลือกทั้งนี้ก็เพราะคาดหวังสัมพันธภาพที่ยั่งยืน

6. ความรักแบบเสียสละ (Agape)
เป็นความรักที่ปราศจากความเห็นแก่ตัวต้องการเป็นผู้ให้มากกว่าผู้รับมีความห่วงใยและคำนึงถึงความสุขของคู่รักเป็นสำค ัญโดยไม่ใส่ใจกับความต้องการของตนเอง"การให้" เป็นปัจจัยสำคัญของความรักแบบนี้ นักจิตวิทยาได้ทำการศึกษาพบว่าในชีวิตจริงคู่สมรสจะมีรูปแบบความรักที่คล้ายคลึงกันเมื่อเปรียบเทียบระหว่างคู่ที่มีความสัมพันธ์ยาวนานกับคู่ที่เลิกราไป
พบว่าประเภทแรกจะมีความรักแบบเสน่หาสูงกว่าและมีความรักแบบไม่ผูกมัดต่ำกว่าประเภทหลังรูปแบบของความรักอาจเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลและลักษณะของบุคคลที่เรามีความสัมพันธ์ด้วย